top of page

ลมพัดผ่าน


พระจันทร์ทอประกายแสงอยู่บนท้องฟ้าดังเช่นเคย บรรยากาศรอบด้านบ่งบอกว่าค่ำคืนมาเยือนแล้ว เมื่อถึงเวลา แสงไฟที่ลอดออกมาจากหน้าต่างก็ดับลง พลันนั้นเป็นเวลาที่ทุกคนเข้าสู่นิทรา...

.

แสงแรกของวันได้เข้ามาแทนที่ความมืดมิดในยามราตรี ในภวังค์มีเสียงเรียกชื่อของเขาแว่วเข้ามาในหู ไม่รู้ว่าเสียงนั้นเป็นความจริงหรือความฝัน แต่เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้น ก็รู้ว่าเสียงนั้นเป็นความจริง...เป็นเสียงแม่ของเขา

.

"แม่รู้สึกมึนหัว จะอ้วก บ้านมันหมุน" แม่บอก

ขณะนั้นเขากำลังสลึมสลือ นึกว่าคงไม่เป็นอะไร แม่ของเขาคงแค่มึนหัว

.

แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็รู้ว่านี่ไม่ใช่แค่อาการมึนหัวธรรมดา แม่ของเขาลุกขึ้นมาอ้วก เดินไม่ได้ ต้องนอนอยู่อย่างนั้น เพราะอาการบ้านหมุนไม่หาย

.

วันนี้เป็นวันธรรมดาที่ทุกคนต้องลุกไปทำงาน รวมถึงตัวเขาเองด้วย เขาไม่นึกว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ขึ้น เขาพยุงแม่ไปห้องน้ำเพื่อที่ให้แม่เตรียมตัวไปโรงพยาบาล ส่วนตัวเขาออกไปหาซื้อข้าวมื้อเช้า ซึ่งปกติจะเป็นแม่ของเขาที่ลุกขึ้นมาเตรียมให้

.

ขณะปั่นจักรยานไปซื้อข้าว เขานึกในใจ แม่เขาอายุแค่นี้ แต่ป่วยดูไม่แข็งแรงยิ่งกว่าคนอายุ70เสียอีก ภาพต่างๆ พลันปรากฏขึ้นฉายอย่างรวดเร็ว เป็นภาพที่แม่เขาทำงานหนัก หาเงินตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทำกับข้าว และทำงานต่อในตอนเย็น เขานึกเสียใจที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แม่ต้องเหนื่อย ถ้าวันนึงแม่เป็นอะไรขึ้นมา เขาจะเป็นที่พึ่งให้แม่ได้มั้ย ขับรถไม่เป็น ทำกับข้าว...ไม่เป็น และตอนนี้ก็ยังหาเงินด้วยตัวเองไม่ได้

.

หลังจากที่กลับมาถึงบ้าน พี่ของเขาพาแม่ไปโรงพยาบาลแล้ว เขาตั้งใจแล้วว่าต่อจากนี้อยากช่วยแบ่งเบาภาระให้แม่ได้มากขึ้น ต้องเก่งขึ้น แม่จะได้เหนื่อยน้อยลง

เขาเริ่มทำความสะอาดบ้านทีละอย่าง ทีละอย่าง จนถึงเวลาเรียน เขาพบว่าจริงๆ แล้ว เขาทำได้ และเสร็จพอดีกับเวลาเรียน ที่ผ่านมาเขานึกว่าทำไม่น่าจะทัน แต่เมื่อมีเงื่อนไขต่างๆ ที่บีบให้เขาทำเขาก็ทำได้

.

...โชคดีที่วันนี้แม่ของเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก กินยาแล้วสามารถรักษาได้ ภายใต้เงื่อนไขทำให้เขาเห็นศักยภาพในตัวเอง เขาบอกตัวเองว่า คงไม่ต้องรอให้ถึงวันนั้น ถึงจะทำได้ เขาสามารถทำได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย อนาคตไม่แน่นอน การไม่ต้องรอเงื่อนไขให้มาบีบให้ทำ ดีกว่ารอวันนั้นมาถึงก่อนแล้วค่อยทำ


ดู 11 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
bottom of page